อุทาหรณ์ !!! เด็กน้อยวัย 11ขวบ เสียชีวิตเพราะกลืนยาชนิดนี้เกือบหมดขวด


    หลังจากชีวิตการแต่งงานของคู่รักคู่หนึ่งได้ผ่าน

ไปเป็นเวลา 11 ปี เด็กชายตัวน้อยหน้าตาน่ารักก็
ได้ถือกำเนิดขึ้น พวกเขาเป็นคู่ที่รักกันมาก

และเด็กชายคนนี้ถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งสำหรับ
พวกเขา



เมื่อเด็กชายตัวน้อย ได้เติบโตขึ้นจนมีอายุได้
ประมาณสองขวบ ในเช้าวันหนึ่งสามีได้เห็นขวด
ยาถูกเปิดฝาทิ้งไว้
ซึ่งในขณะนั้นเขากำลังจะไปทำงานสาย เขาจึงได้บอก
กล่าวกับภรรยาให้ช่วยปิดฝาขวดยาขวดนั้นและ
เก็บมันไว้ในตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม ภรรยาของเขามัวแต่
วุ่นอยู่กับเรื่องในครัวจนลืมเรื่องขวดยาไปเสียสนิท


เด็กชายตัวน้อยได้มองเห็นขวดยา และได้หยิบ
มาเล่นด้วยความซุกซน สีสันอันน่าดึงดูดของมันทำ
ให้เขาได้ดื่มยาจนหมดขวด ยาชนิดนี้เป็นยาที่อันตราย
ซึ่งแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ควรรับประทานเพียงครั้งละเล็กน้อย
เท่านั้น ทันทีทันใดนั้นเด็กชายได้ทรุดตัว และล้มลง
กองกับพื้น แม่ของเขาตกใจมาก เธอรีบนำร่างของหนู
น้อยส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่สามารถยื้อ
ชีวิตเด็กน้อยผู้น่าสงสารไว้ได้ ผู้เป็นแม่กำลังตกอยู่ในภวังค์ เธอรู้สึกหวาดกลัวในการเผชิญหน้ากับสามีของเธอ

เมื่อผู้เป็นพ่อได้ทราบข่าว เขากลุ้มใจมาก จึงได้รีบ
เดินทางเพื่อไปพบลูก เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาก็ได้
ทราบข่าวว่าลูกชายของตนได้เสียชีวิตแล้ว เขาจึงได้
หันมองไปยังภรรยาของเขาที่กำลังตกใจ และกระวน
กระวายอย่างมาก เขาได้พูดกับเธอเพียงสั้น ๆ

สามีได้พูดเพียงว่า " ผมอยู่ข้างๆ คุณนะที่รัก "

เด็กน้อยได้จากไปแล้ว เขาไม่สามารถถูกทำให้ฟื้นชีวิตได้


ไม่มีประโยชน์อันใดในการมองหาความผิดพลาด
จากผู้เป็นแม่ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็สามารถใช้เวลาเพียง
ไม่นานในการเก็บขวดยาให้พ้นมือเด็ก ไม่อย่างนั้นเรื่อง
เช่นนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น!!!

ไม่มีใครต้องถูกกล่าวโทษ เธอก็สูญเสียลูกชายของเธอ
เช่นเดียวกับเขา สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ
การปลอบโยน ขวัญกำลังใจ และความเห็นอกเห็นใจ
จากสามี และนั่นคือสิ่งที่ชายคนนี้ได้มอบให้แก่ภรรยา
ของเขาแล้ว

หากทุกคนสามารถมองชีวิตในมุมมองเช่นนี้ได้
ปัญหาบนโลกใบนี้ก็คงจะลดน้อยลง
"การเดินทางไกลเป็นพันไมล์เริ่มต้นจากก้าวแรกเสมอ"
ถอดมันทิ้งไปเถอะ ความอิจฉาริษยา การไม่รู้จัก
ให้อภัยซึ่งกันและกัน ความเห็นแก่ตัว และความกลัว
แล้วคุณจะพบว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ได้ยากเย็นอย่างที่ีคุณคิด

*ข้อคิด :::: บางครั้งคนเรามักจะใช้เวลาหมดไปกับการ
มัวแต่ตั้งคำถามว่า ใครควรต้องรับผิดชอบ ใครที่ควรจะถูกตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องงาน หรือ
กับคนที่เรารู้จักก็ดี ทั้ง ๆ ที่เราควรจะใช้เวลาเหล่านี้
ช่วยกันแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ ซึ่งมันย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า

📲  ถ้าชอบช่วยกดแชร์เพื่อแบ่งปันสิ่งดีๆ ด้วยนะครับ

ที่มา
เรื่องสั้น แล้วจะโทษใครกันเล่า / Hassan Aero แปล

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.