วงจรชีวีตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สุขใจดีกว่าสุขกาย
คนแรก...ขับรถเบนซ์ ราคา 3 ล้าน เขาเป็นหนี้แบงค์ 12 ล้าน
ชีวิตของเขา...อยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตาย
คนที่สอง...ขับโตโยต้า ราคา 7 แสน เขากู้แบงค์มาผ่อนบ้านราคา 2 ล้าน
ชีวิตของเขา...มักมีเรื่องให้กลุ้มใจอยู่เสมอ
คนที่สาม...ขี่มอเตอร์ไซค์ราคา 5 หมื่น เขามีเงินฝากแบงค์ 7 แสน
ชีวิตแม้จะราบรื่น...แต่ก็รู้สึกว่างเปล่าไร้สาระ
เมื่อทั้ง 3 คนมาเจอกัน
คนขี่มอเตอร์ไซค์...อิจฉาคนขับโตโยต้า
คนขับโตโยต้า...อิจฉาคนขับเบนซ์
คนขับเบนซ์...อิจฉาคนขี่มอเตอร์ไซค์
นี่คือ "ความเป็นจริงของสังคม"
ที่แต่ละคนต่างเป็นทาสของเงินทองและโชคชะตา
ชีวิตคนเราก็เหมือนเหรียญ 2 ด้าน
ด้านหนึ่งเรียกว่า “ความสุข”
ด้านหนึ่งเรียกว่า “ความทุกข์”
เมื่อด้านที่เป็น"ความทุกข์"พลิกขึ้นมา
เราจะได้อยู่กับความขมขื่น
ถ้าเลือกที่จะทนทุกข์
ก็จะได้เห็นแต่ด้านนั้นของเหรียญ
แต่ “เหรียญ”จะไม่มีทางพลิกตัวเอง
เราเท่านั้นที่จะพลิกเหรียญนั้นได้
หากยังไม่คิดที่จะพลิกเหรียญอันนี้
แล้วเมื่อไรเราจะได้เห็นด้านที่เป็น"ความสุข" สักที
แมว ... ชอบกินปลา แต่กลับว่ายน้ำไม่เป็น
ปลา ... ชอบกินไส้เดือน แต่ก็ไม่สามารถขึ้นบกมาขุดไส้เดือนได้
สวรรค์...เอาเหยื่อมากมายมาล่อเรา แต่ก็ไม่ให้ได้มันมาโดยง่ายดาย
เรื่องใหญ่สักเท่าใดของวันนี้ ถึงพรุ่งนี้...ก็กลายเป็นเรื่องเล็กจิ๊บจ๊อย
เรื่องใหญ่สักเท่าใดของปีนี้ ถึงปีหน้า...ก็กลายเป็นนิทาน
อย่างมาก...พวกเราก็เป็นเพียงแค่คนที่มี "นิทาน"ไว้เล่าให้คนอื่นฟัง ชีวิต...ก็มีเพียงเท่านี้
cr : แชร์ธรรมนำชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น: