น้ำผึ้งเดือน 5 สุดยอดสมุนไพรตามฤดูกาล สู่ตำรับยาไทย


อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแนะนำน้ำผึ้งเดือน 5 ความเข้มข้นสูง ช่วยบำรุงร่างกาย สมานแผล เป็นยาอายุวัฒนะ ดูแลผิวช่วงหน้าร้อนได้อย่างมีคุณภาพ

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์ถึงประโยชน์ของน้ำผึ้งว่า คนทั่วไปจะรู้จักน้ำผึ้งกันเป็นอย่างดี น้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลฟรุคโทส (fructose) เป็นหลัก เป็นน้ำหวานโมเลกุลคู่ที่ได้จากดอกไม้หรือผลไม้ มีความหวานมากกว่าน้ำตาลกลูโคส ถึง 1.4 เท่า น้ำผึ้งที่ดีจะมีลักษณะข้นหนืด มีความใส โปร่งแสง สะอาด ไม่มีตะกอนหรือสิ่งเจือปน ไม่มีไขผึ้ง ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว มีกลิ่นหอมเฉพาะของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งดูดน้ำหวานมา ในน้ำผึ้ง 100 กรัม ให้พลังงาน 303 แคลลอรี่ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย น้ำผึ้งถูกนำไปผสมในอาหารคาวหวาน เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร น้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีมาก คือ น้ำผึ้งเดือน5 จะมีความเข้มข้นสูง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้ง ดอกไม้กำลังเบ่งบานน้ำผึ้งที่เก็บในช่วงนี้จะมีความชื้นน้อย ภูมิปัญญาชาวบ้านในการตีผึ้งเอาน้ำหวาน โดยจะตีผึ้งในวันที่ 7 หลังจากที่พบรังผึ้ง ในระหว่าง 7 วันก่อนจะตีผึ้ง จะต้องไม่มีฝนตกลงมา เพราะจะทำให้น้ำผึ้งเหลวและไม่เข้มข้นในช่วงหน้าแล้ง


ตามตำราเภสัชกรรมไทย น้ำผึ้ง มีรสหวาน สรรพคุณบำรุงกำลัง แก้สะอึก แก้ไข้ เป็นยาอายุวัฒนะและช่วยสมานแผล น้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบในตำรับยาไทยหรือพิกัดยาไทยหลายขนาน เช่น ตรีมธุรส บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร (มีส่วนผสมของ น้ำผึ้ง น้ำตาล น้ำมันเนย) และยาที่ใช้ในการบำรุงร่างกาย ตำรับต่าง ๆ จะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง ซึ่งแพทย์แผนไทยใช้น้ำผึ้งในการแต่งรสยา เพื่อให้ยารับประทานง่ายขึ้น แต่จะไม่ใช้กับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง นอกจากนี้ทางการแพทย์ยังใช้น้ำผึ้งเป็นสารยึดเกาะ ประสานผงยาลูกกลอนให้จับก้อน จากข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่า น้ำผึ้งบริสุทธิ์มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสมานแผล ลดอาการอักเสบ ดับกลิ่นของแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ปัจจุบันมีการใช้น้ำผึ้ง เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมเวชสำอาง ใช้ดูแลผิวพรรณ รวมถึงอาหารเสริมต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น


อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้น้ำผึ้งก็มีข้อพึงสังเกต หากพบว่าเป็นน้ำผึ้งป่า ต้องสอบถามหรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณที่เก็บน้ำผึ้งไม่มีดอกไม้ที่เป็นพิษ เพราะอาจจะทำให้เกิดพิษ หรือไม่ได้ผลเท่าที่ควรจากการใช้น้ำผึ้งป่า และผู้ใช้ควรทำให้น้ำผึ้งบริสุทธิ์โดยการต้มเคี่ยวก่อนนำมาใช้

ขอบคุณข้อมูล สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.